worldbet88

แบล็คแจ็ค

Worldbet88 แบล็คแจ๊ค เกมคาสิโนออนไลน์เปิดบริการ 24 ชั่วโมง

Black Jack

แบล็คแจ็ค เกมไพ่ที่มีประวัติการเกิดขึ้นเมื่อ ค.ศ.1601 ในทวีปยูโรปได้รับความนิยมอย่างมากมายจนแพร่หลายไปทั่วโลกจนมาถึงทวีปเอเชีย ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งประเทศที่ชอบการเล่นเกมไพ่ชนิดมากเช่นกัน เกมไพ่แบล็คแจ๊คนั้นเล่นกันได้หลายคน เล่นง่าย เข้าใจไม่ยากสำหรับมือใหม่ที่กำลังหัดเล่น ถ้าหากนั้นถามว่าเกมไพ่แบล็คแจ๊คนั้นเล่นอย่างไร มาเราจะอธิบายอย่างง่ายๆ ให้ฟัง เพียงท่านนั้นมีไพ่ในมือแต้มใกล้เคียง 21 แต้ม ก็จะเป็นฝ่ายชนะ หากแต้มเท่ากับ 21 ก็จะถือว่าคนนั้นเป็นผุ้ชนะเกมนั้นๆ ไปเลย และจะได้อัตราการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทางเราเห็นเกมไพ่แบล็คแจ๊คเกมนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เป็นที่ชื่นชอบทุกวัย ทางเราเลยได้นำมาประยุกต์ให้เข้าสู่โลกออนไลน์ เพื่อที่จะให้ทุกคนทุกท่าน ได้เข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้น สะดวกสบายในการเข้าเล่น ไม่ต้องเดินทางไปที่สถานที่ก็สามารถเล่นเกมได้จากที่บ้านของท่าน เพียงท่านนั้นมีคอม หรือมือถือ ที่รองรับระบบทั้ง iOS และ Android

กติกาเล่นแบล็คแจ็ค

ก็หลักการง่ายๆ คือหลังจากแจกไพ่ครบ ทุกคนสามารถจั่วไพ่ ได้ไม่จำกัด จั่วจนกว่าแต้มของคุณจะเกิน 21 หรือได้แต้มที่พอใจ หรือแต้มเกิน 21 ก็จะหมดสิทธิ์จั่วเช่นกัน และ แบล็คแจ็คเป็นเกมการเล่นของผู้เล่นกับเจ้ามือ แต้มของผู้เล่นคนอื่นบนโต๊ะ ไม่ส่งผลต่อไพ่คุณ

แต้มของไพ่

  • ไพ่ตั้งแต่ 2 – 10 มีแต้มตามหน้าของไพ่
  • ไพ่ J Q K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
  • A มีแต้มเป็น 1 หรือ 11 ก็แล้วแต่ไพ่ในมือของท่านจะมีแต้งรวมเท่าไหร่นั้นเอง
  • แต้มรวมของไพ่เท่ากับ 21 คือไพ่แบล็คแจ็ค

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเล่น

  • กรณีไพ่ของเราเกิน 21 แต้ม จะถือว่าแป้ก หรือ Busted โดยจะต้องเสียเงินเดิมพันทันที ไม่ว่าเจ้ามือกี่แต้มก็ตาม นี่คือกติกาสากล
  • เจ้ามือจะต้องเรียกไพ่เรื่อยๆ หากว่ามีน้อยกว่า 16 แต้ม หรือมี 16 แต้ม แต่เมื่อมี 17 แต้ม หรือมากกว่า 17 แต้มต้องหยุดเรียกทันที
  • เราสามารถเรียกไพ่ หรือว่าไม่เรียกก็ได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับจำนวนแต้ม
  • หากเราไม่ตัดสินใจเรียกไพ่ หรือการกระทำอื่นๆ ก่อนเวลาหมด เราจะถูกบังคับให้อยู่โดยอัตโนมัติ

อัตราการจ่าย

ผู้ชนะ มือ จ่าย
เจ้ามือ แบล็คแจ๊ค ไม่จ่าย
ผู้เล่น แบล็คแจ๊ค 3:2 (มือแรก)
ผู้เล่น ชนะอื่นๆ 1:1
เจ้ามือ ประกันภัย 2:1
เสมอ มืออื่นๆ คืนเงิน

ศัพท์แบล็กแจ็ก

  • Blackjack (แบล็กแจ็ก): การได้แต้ม 21 ทันทีเมื่อแจกไพ่สองครั้งแรก
  • Hit: การเรียกไพ่เพิ่มเพื่อให้เข้าใกล้ 21 แต้มให้มากที่สุด
  • Stand: การพอใจในไพ่ที่ได้มา (ชื่อเรียกอื่นๆ: Stay, Stick, Stand pat)
  • Double down (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น): เป็นการลงเดิมพันเพิ่มขึ้น 100% ตามกฎของแบล็กแจ็ก ผู้เล่นวางเงินเดิมพันทับเส้นกรอบสี่เหลื่ยม กรณีนี้เรียกไพ่เพิ่มได้ 1 ใบเท่านั้นเพื่อลุ้นว่าไพ่ใบที่สามจะเป็นอะไร
  • Split (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น): หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ เช่น ไพ่ 5 สองใบ เจ้ามือจะถามว่าต้องการ Split? ไหม ถ้าตอบตกลงผู้เล่นก็สามารถเล่นไพ่ 2 ชุดได้ในเวลาขณะนั้น
  • Surrender (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น): ในบางเกมผู้เล่นสามารถขอยอมแพ้ได้ และได้เงินพนันกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียว
  • Insurance (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น): หากไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ A เจ้ามือจะถามว่าทำ Insurance? ไหม ถ้าทำก็เพิ่มเงินอีกครึ่งของวงเงินเดิมพัน (เช่น เงินเดิมพัน 10 เงิน Insurance คือ 5) เพราะไพ่ A ของเจ้ามือถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนะ หากเจ้ามือได้แบล็กแจ็กผู้เล่นจะได้เงินส่วนที่ทำ Insurance เพิ่มกลับมา ในทางกลับกันถ้าเจ้ามือแพ้จะริบเงินที่ทำ Insurance ไป

เทคนิคการเล่นแบล็คแจ๊ค

สำหรับเกมอย่างแบล็คแจ็คนั้น แน่นอนเกมนี้ขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์ทั้งหมด เราต้องอ่านเกมให้ออกว่าเราจะเรียก หรือหยุด หรือแยกไพ่ ซึ่งกว่าจะเก่งกันได้ต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ตามเราได้สรุปเทคนิคการเล่นจากนักพนันผู้เชี่ยวชาญและมือโปรของเรา ถึงหลักการเล่นที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่เราควรทำ เวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆ มีดังนี้

  • เทคนิคการแทงประกัน หากว่าเจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็น A นำว่าควรแทงประกันทุกครั้ง เพราะว่ามีโอกาสเยอะมากที่จะเป็น แบล็คแจ็ค
  • เทคนิคการแทงแบบแยกไพ่ ควรแยกไพ่ทุกครั้ง เมื่อเราได้ 2 ใบแรก เหมือนกัน เช่น K กับ K , Q กับ Q , J กับ J และ 10 กับ10
  • เทคนิคการเรียกไพ่ อย่าหวังว่าแต้มจะต้อง 21 แต้มทุกครั้ง บางครั้งเพียงแค่ 12 หรือ 13 ก็สามารถชนะได้ ในกรณีที่มี่ 2 ใบแรกรวมกันได้ 11 แต้ม ควรเรียกไพ่เพิ่มทุกครั้ง หากว่ามีแต้ม 17 หรือว่า มากกว่า 17 ไม่ควรเรียกไพ่เพิ่ม